บันทึกข้อความ

ส่วนราชการ          ฝอ.4 บก.อก.บช.ตชด.           โทร. 0-2279-9520-34 ต่อ 370

ที่  0030.143/                                                           วันที่         19       มกราคม  2550  

เรื่อง  ตอบข้อหารือ 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เรียน  ผกก.ฝอ.1 บก.อก.บช.ตชด.

                        1. เรื่องเดิม 

                            บช.ตชด. มีประกาศ ลง 8 ม.ค.2550   เรื่อง การรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอก

เพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจ ประจำปี 2550

                        2. ข้อเท็จจริง

                            2.1 กก.ตชด.31  มีวิทยุ ด่วนที่สุด ที่ 0030.411/176 ลง  17  ม.ค.2550    ถึง บช.ตชด.

หารือว่า  ด้วยมีผู้สมัครคัดเลือกบางรายถูกศาลพิพากษาเมื่อวันที่  14  ต.ค.2547 ว่า มีความผิดตามฟ้อง

รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตาม ป.อ. มาตรา 78 คงจำคุก 6 เดือน ปรับ 1,500 บาทไม่ปรากฏว่าเคย

ได้รับโทษจำคุกมาก่อน หรือเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน แต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดย

ประมาทหรือความผิดลหุโทษ   โทษจำคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด  2  ปี ตาม ป.อ. มาตรา 56

ของกลางให้ริบ

                            2.2 กก.ตชด.31 จึงขอหารือว่า ผู้สมัครดังกล่าวขาดคุณสมบัติตามประกาศ บช.ตชด.

ลงวันที่ 8 ม.ค.2550  ข้อ 2.7 (4) หรือไม่ประการใด

                            2.3 เนื่องจากประเด็นดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมาย     ฝอ.1 บก.อก.บช.ตชด. จึงมี

หนังสือ ด่วนที่สุด ที่ 0030.112/171 ลง 18 ม.ค.2550 ประสานมายัง ฝอ.4 บก.อก.บช.ตชด. ช่วยกรุณา

วินิจฉัยตามข้อหารือของ กก.ตชด.31 

3. ข้อพิจารณา

                            3.1 ประกาศ บช.ตชด. ลง 8 ม.ค.2550 เรื่อง การรับสมัครและคัดเลือกบุคคลภายนอก

เพื่อบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการตำรวจประจำปี 2550 ข้อ 2.7 กำหนดว่า ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติ

และไม่มีลักษณะต้องห้ามอื่นดังต่อไปนี้

                                  ฯลฯ

                                   (4) ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก     เว้นแต่เป็น

โทษสำหรับความผิดที่กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ

                                  ฯลฯ 

                            3.2 ฝอ.4 บก.อก.บช.ตชด.  พิจารณาประกาศของ บช.ตชด. ตามข้อ 3.1 แล้ว  เห็นว่า

ประกาศดังกล่าวในข้อ 2.7 (4) มีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิของผู้สมัครรับคัดเลือก กล่าวคือ หากบุคคล

ใดมีลักษณะต้องห้ามตามประกาศดังกล่าว ก็จะขาดคุณสมบัติในการสมัครรับคัดเลือก     ดังนั้น จึงต้อง

แปลหรือตีความประกาศดังกล่าวโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ เป็นไปตามหลักเกี่ยวกับการแปลความหรือตีความ

ประเด็นข้อกฎหมายที่ว่า       “ การแปลหรือตีความบทบัญญัติที่มีลักษณะเป็นการจำกัดสิทธิของบุคคล

จะต้องแปลหรือตีความโดยเคร่งครัด หาอาจจะแปลหรือตีความในลักษณะขยายความหาได้ไม่” ดังนั้น

ถ้อยคำที่ว่า “ไม่เป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก” นั้น จึงต้องแปลหรือตีความ

โดยเคร่งครัดว่า ต้องเป็นคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุกจริง ๆ การที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แต่

โทษจำคุกให้รอการลงโทษเอาไว้       จึงไม่ถือว่าเป็นผู้เคยต้องรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้

จำคุก ดังนั้นบุคคลที่เคยถูกศาลพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แต่โทษจำคุกให้รอการลงโทษเอาไว้ จึงมีสิทธิ

ที่จะสมัครรับคัดเลือกได้ ตามประกาศ บช.ตชด. ลง 8 ม.ค.2550 ข้อ 2.7 (4)  

4. ข้อเสนอ

                            เห็นควรแจ้งผลการหารือเพื่อให้ ฝอ.1 บก.อก.บช.ตชด. นำเรียน ผบช.ตชด.  และแจ้ง

กก.ตชด.31 ทราบให้ทันกำหนดการรับสมัครต่อไป

                        จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

 

                                                                             พ.ต.อ.

                                                                                        ( จำนงค์  พรมพันธ์ใจ )

                                                                                     ผกก.ฝอ.4 บก.อก.บช.ตชด.