เมื่อข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหา หรือ กรณียังเป็นที่สงสัย(อาจจะผิดหรือไม่ผิดก็ได้)

ให้ดำเนินการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยตั้งกรรมการสืบสวน
(ผกก.ขึ้นไป สั่งตั้งกรรมการสืบสวน)

ถ้าเห็นว่าไม่มีมูลให้
สั่งยุติเอง (ผกก.ขึนไปสั่งยุติ)
(ผู้สั่งตั้งเป็นผู้สั่งยุติ

ถ้าเห็นว่าเป้นการกระทำผิดไม่ร้ายแรง
ให้ผู้บังคับบัญชา(ผู้สั่งตั้งกรรมการสืบสวน)
พิจารณาสั่งลงโทษ(ภาคึทัณฑ์,ทัณกรรม,
กักยาม,กังขัง,ตัดเงินเดือน (สั่งลงโทษภายใน 240 วัน นับแต่ได้รับสำนวนขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละไม่เกิน 60 วัน)

ถ้าเห็นว่าไม่มีมูลว่าเป็นกระทำผิดร้ายแรงให้ผู้บังคับบัญชาสั่งตั้งกรรมการสอบสวน ผบก.ขึ้นไปสั่งตั้งกรรมการสอบสวน)

   

ถ้าไม่ผิด ผบก.,ผบช.,ผบ.ตร.,นายกรัฐมนตรี เป็นผู้สั่งยุติเรื่อง
(ผู้สั่งตั้งเป็นผู้ยุติ)

   

ถ้าผิดอย่างไม่ร้ายแรง ให้ ผบก.ผบช.,,ผบ.ตร..นายกฯ พิจารณาสั่งลงโทษ ภาคทัณฑ์,ทัณกรรม,กักยาม,กังขัง,ตัดเงินเดือน(ผู้สั่งตั้งหรือสูงกว่าเป็นผู้สั่งลงโทษ ถ้าผิดอย่างร้ายแรง ให้ผบก.,ผบช.,ผบ.ตร,นายกฯ สั่งปลดออก หรือไล่ออก (ผู้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเป็นผู้สั่งลงโทษ)สั่งลงโทษภายน 240 วัน นับแต่วได้รับสำนวนขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละไม่เกิน 60 วัน

    ถ้าผิดอย่างร้ายแรง ให้ ผบก.,ผบช,ผบ.ตร,นายกฯ สั่งปลดออก หรือไล่ออก (ผู้สั่งตั้งกรรมการสอบสวน เป็นผู้สั่งลงโทษ) (สั่งลงโทษภายใน 240 วันนับแต่ได้รับสำนวนขยายได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละไม่เกิน 60 วัน

หมายเหตุ หากการพิจารณาไม่แล้วเสร็จหลังจากที่ได้ขายระยะเวลาทั้งสองครั้ง ให้ข้าราชการตำรวจผู้ถูกกล่าวหากลับคืนสูสถานะเดิมก่อน และให้ถือว่าไม่เป็นผู้ที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนหรือสอบสวน จนกว่าการพิจารณาสั่งการในเรื่องนั้นจะเสร็จสิ้นและมีคำสั่ง กก

กรณีข้าราชการตำรวจถูกกล่าวหาค่อนข้างจะเป็นความผิดที่แนชัด
ให้ผู้บังคับบัญชา (ผบก.,ผบช.ผบ.ตร.,นายกฯ)สั่งตั้งกรรมการสอบสวน
ถ้าไม่ผิดผบก.,ผบช.ผบ.ตร.,นายกฯ
เป็นผู้สั่งยุติเรื่อง(ผู้สั่งตั้งเป็นผู้สั่งยุติ)

ถ้าผิดอย่างไม่ร้ายแรง ให้ ผบก.,ผบช.,ผบ.ตร.,นายกฯ พิจารณาสั่งลงโทษ ภาคทัณฑ์,ทัณกรรม,กักยาม,กักขัง,ตัดเงินเดือน
(ผู้สั่งตั้งหรือสูงกว่าเป็นผู้สั่งลงโทษ

ถ้าผิดอย่างร้ายแรง ให้ ผบก.,ผบช.ผบ.ตร.นายกฯ,สั่ง ปลดออก
หรือไล่ออก (ผู้สั่งตั้งกรรมการสอบสวนเป็นผู้สั่งลงโทษ)(สั่งลงโทษ